Buyer Guide: 5 สาระน่ารู้ที่คุณควรอ่านก่อนซื้อโฮมเธียเตอร์โปรเจคเตอร์

กำลังคิดจะซื้อโปรเจคเตอร์?
ไม่ว่าจะเพื่อดูหนังกับเพื่อน เพื่อสร้างช่วงเวลาดีๆกับครอบครัว หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการหาโปรเจคเตอร์ที่เหมาะสมตามความต้องการของคุณ โปรเจคเตอร์โฮมเธียเตอร์ทั้งหมดอาจดูคล้ายกันแต่มันมีสเปคและความสามารถที่แตกต่างกัน สำหรับคนที่กำลังสงสัยในเรื่องสเปค อาทิ เช่น 4K, UHD, 1080p, HDแตกต่างกันอย่างไร ในบทความนี้เราจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ 5 ข้อที่คุณควรรู้ก่อนซื้อโปรเจคเตอร์โฮมเธียเตอร์สำหรับบ้านของคุณ!

โปรเจคเตอร์โฮมเธียเตอร์ในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นโปรเจคเตอร์แบบ DLP ที่ใช้กระจกขนาดเล็กเพื่อสะท้อนแสง และใช้วงล้อสี (วงล้อหมุนกับฟิวเตอร์หลากสี) ในการแสดงภาพ โดยทั่วไปจะพกพาง่ายและให้ความคมชัดสูง สำหรับเรื่องการแสดงค่าสีนั้นโดยทั่วไปผู้ผลิตจะใช้สีแดง เขียว และน้ำเงิน ตามมาตรฐาน (sRGB) เป็นการตั้งค่าสีเริ่มต้น ถ้าเรามองถึงเรื่องความแม่นยำในการแสดงผล วิดีโอที่ถ่ายด้วยการตั้งค่าเช่นเดียวกันนี้ ภาพที่แสดงออกมาควรจะแม่นยำให้ภาพดุจเดียวกันกับช่วงเวลาที่ถ่าย แต่ภาพจากโปรเจคเตอร์นั้นมีปัจจัยที่ต้องคำนึงมากกว่าจอภาพประเภทอื่น เช่น แสงที่ออกมาจากเครื่องโปรเจคเตอร์ ความคมชัด และระยะฉาย นอกจากนี้การมองเห็นสีนั้นก็ขึ้นกับความการรับรู้ส่วนบุคคล สีแดงที่คุณมองเห็นอาจจะกลายเป็นสีชมพูสำหรับคนอื่น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมาตรฐานสีถึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน ช่วงสี Rec.709 เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เพื่อรักษามาตรฐานในการแสดงผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงสี ความละเอียด อัตราเฟรม และสเปควิดีโอ สำหรับอุปกรณ์ ที่ใช้ในการแสดงผลแบบ HD ไม่ว่าจะเป็น จอแสดงผล DVDs หรือเครื่อง Blu-ray

โปรเจคเตอร์โฮมซีนีม่ารุ่นล่าสุดของ BenQ ทั้งหมดได้ใช้เทคโนโลยี CinematicColor™เพื่อสีสันที่สดใสที่สุด อ่านมุมมองของนักแสดงอย่าง David Crozier ที่มีต่อโปรเจคเตอร์ 4K รุ่น CinePro series ของ BenQ ได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=CIAwUARANuU&feature=youtu.be

ความคมชัดของภาพจากโปรเจคเตอร์นั้นมีผลสืบเนื่องมาจากค่าความละเอียดในการแสดงภาพ โดยทั่วไปภาพบนจอถูกสร้างมาจากจุดเล็กๆหลายจุดที่เรียกว่าพิกเซล ยิ่งคุณภาพและจำนวนของพิกเซลดีเท่าไหร่ คุณภาพของภาพก็จะดียิ่งขึ้นเท่านั้น ถ้าคุณมีเป้าหมายที่จะใช้โปรเจคเตอร์เพื่อดูหนังหรือเล่นเกมส์ ความละเอียดที่มาพร้อมพิกเซลจำนวนมากนับเป็นสิ่งที่จำเป็น ความละเอียดที่เหมาะสมสำหรับโปรเจคเตอร์โฮมเธียเตอร์มีสองระดับ คือ 1920x1080 พิกเซล ที่เรานิยมเรียกกันว่า Full HD และความละเอียดระดับ 4K UHD (3840x2160 พิกเซล) โดยความละเอียดดังกล่าวนับว่าเพียงพอและช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับหนังหรือเกมส์ระดับ HD ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับเบ็นคิวทางเรามีโปรเจคเตอร์โฮมเธียเตอร์ W1700 4K UHD ของ BenQ มีความละเอียดระดับ 8.3 ล้านพิกเซลต่อเฟรม สามารถให้ภาพที่มีความละเอียดคมชัดกว่า Full HD 1080p ถึง 4 เท่า นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุ้มค่าสำหรับคุณ

ความคอนทราสต์สร้างขึ้นจากชุดเฟรมที่ประกอบขึ้นมาจากการนำเฟรมเดียวหลายๆเฟรมมาต่อกัน การวัดค่าสามารถทำได้สองแบบ คือการวัดแบบ Full On / Full Off (FOFO) และการวัด ANSI สำหรับการวัดแบบ FOFOนั้น สามารถปรับแต่งค่าได้ง่าย และนิยมใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรม ส่วนการวัดแบบ ANSI จะให้ผลในการวัดที่แม่นยำยิ่งกว่า

การวัดแบบ Full On / Full Off (FOFO) จะเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างความสว่างบนพื้นที่สีขาว (Full On) และพื้นที่สีดำสนิท ( Full Off) อัตราความคอนทราสต์ 5,000 : 1 หมายถึงค่าความสว่างบนพื้นที่สีขาวนั้นสว่างกว่าพื้นที่สีดำ 5,000 เท่า หากแต่ค่าดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปเมื่อรับชมจริงเพราะในการรับชมแบบปกตินั้นเป็นไปได้ยากที่สีบนจอจะสลับระหว่างขาวและดำอย่างชัดเจน

ส่วนการวัดแบบ ANSI จะวัดบนพื้นที่ที่มีลายแบบตารางหมากรุก (ประกอบด้วยสี่เหลี่ยม 16 ช่อง ช่องสีขาว 8 ช่อง และสีดำ 8 ช่อง) โดยจะวัดความสว่างของทั้งช่องสี่เหลี่ยมสีขาว และสีดำแล้วนำมาหาค่าเฉลี่ย และอัตราส่วนความคอนทราสต์ ANSI ซึ่งจะสามารถให้ผลที่แม่นยำยิ่งกว่า นอกจากความคอนทราสต์แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องพิจารณา ได้แก่ แสงโดยรอบของตำแหน่งที่วางโปรเจคเตอร์และวัสดุของฉากสำหรับฉาย เพราะทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการแสดงภาพเช่นกัน หากสนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ FOFO และ ANSI สามารถคลิกเข้าไปได้ที่ “ The Myth of High Contrast ”

สภาพแสงแวดล้อมในการรับชมก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ควรคำนึงถึงในการเลือกโปรเจคเตอร์ สำหรับค่าความสว่างนั้น เราะจะวัดค่าของโปรเจคเตอร์ด้วยหน่วยที่เรียกว่า ANSI Lumens เนื่องจากโปรเจคเตอร์มีความไวต่อแสง ความสว่างที่ออกมาและแสงแวดล้อมจึงมีผลต่อการรับชม สำหรับการเลือกโปรเจคเตอร์สำหรับฉายในสภาพที่มีแสงรบกวนเล็กน้อย เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดคุณควรเลือกรุ่นที่มีความสว่างอย่างน้อย 2,000 Lumens

ทาง BenQ พัฒนาสินค้าโดยคำนึงถึงผลกระทบของแสงแวดล้อม ดังนั้นโปรเจคเตอร์ TK800 ของเราจึงได้รับการออกแบบให้มีความสว่างถึง 3,000 Lumens และ 2,200 Lumens สำหรับโปรเจคเตอร์รุ่น W1700 เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ชมจะเพลิดเพลินกับการรับชม ลดผลกระทบจากแสงแวดล้อม

ไม่ว่าคุณต้องการจะฉายภาพยนตร์ เล่นเกม หรือ แสดงภาพดิจิตอลผ่านจอ การเชื่อมต่อเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง เพราะคุณจะต้องต่อโปรเจคเตอร์เข้ากับแหล่งที่มาของภาพ อาทิ แล็ปท็อป หรือ เครื่องเล่นเกมส์คอนโซล โปรเจคเตอร์จำนวนมากมีพอร์ต VGA มาให้เป็นตัวเลือก แต่สำหรับการเล่นเกมส์คุณอาจจำเป็นต้องใช้พอร์ต HDMI โปรเจคเตอร์ซีนีโฮมของ BenQ มาพร้อมกับพอร์ต USB Type A, Mini B, HDMI และ VGA ให้เป็นตัวเลือก ช่วยลดข้อจำกัดในการเชื่อมต่อและใช้งาน

พื้นที่สำหรับวางโปรเจคเตอร์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา การเลือกโปรเจคเตอร์จะขึ้นกับขนาดพื้นที่และการตกแต่ง โดยเฉพาะในเรื่องของตำแหน่งที่วางโปรเจคเตอร์ว่าจะวางตรงกลางหรือด้านข้าง และสำหรับครอบครัวที่มีเด็กพื้นที่ที่วางอาจจะจำกัด ถ้าคุณเลือกวางโปรเจคเตอร์บนโต๊ะหรือติดตั้งบนเพดานควรมองหาโปรเจคเตอร์ที่สามารถปรับภาพให้เหมาะกับตำแหน่งที่วาง โดยอาจเลือกโปรเจคเตอร์ที่สามารถ. ฉายภาพระยะสั้น (Short throw) มีฟังก์ชัน Len Shift และ การแก้ไขภาพสี่เหลี่ยมคางหมู (Sideways Keystone Correction) เพราะจะมีส่วนช่วยปรับภาพให้ลงตัวกับมุมและตำแหน่งที่วางโปรเจคเตอร์