กำลังคิดจะอัปเกรดเป็นโปรเจคเตอร์อยู่หรือเปล่า? บางทีคุณอาจอยากได้ประสบการณ์จอยักษ์เพื่อดูหนังกับครอบครัว หรือเชียร์กีฬาทีมโปรดกับเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การเลือกโปรเจคเตอร์ที่ใช่ จะช่วยยกระดับความบันเทิงของคุณให้ดียิ่งขึ้น
แม้ว่าในตลาดจะมีโปรเจคเตอร์ให้เลือกมากมาย แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องไหนเหมาะกับความต้องการของเราที่สุด? ต่อไปนี้คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกโปรเจคเตอร์ที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างสมบูรณ์
ถ้าคุณกำลังทําหรือตกแต่งบ้านใหม่และอยากมีห้องโฮมเธียเตอร์ส่วนตัว การเลือกโปรเจคเตอร์รุ่นที่ต้องการตั้งแต่ต้น จะช่วยให้คุณออกแบบห้องให้ตรงกับสเปกของเครื่องได้พอดี สร้างประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ
ⓐ ห้องของคุณมีขนาดเท่าไร?
ขนาดของห้องจะเป็นตัวกำหนดขนาดของภาพที่ฉายได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับ ระยะการฉาย (throw distance) และตำแหน่งที่ต้องการวางเครื่องฉาย โดยทั่วไป ขนาดจอภาพที่นิยมใช้ในโฮมเธียเตอร์คือ 100 นิ้วขึ้นไป ซึ่งค่าดังกล่าวสามารถตีความได้เป็น “อัตราส่วนการฉายภาพ (throw ratio)” ของโปรเจคเตอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างระยะห่างจากจอและขนาดของภาพสามารถคำนวณได้ดังนี้:
Throw Ratio = ระยะฉาย / ความกว้างของภาพ
คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลนี้ได้ง่าย ๆ จากสเปกของสินค้าในรูปแบบ “ขนาดจอที่ระยะ xx เมตร” เช่น “100 นิ้ว ที่ระยะ 2.5–3 เมตร” ซึ่งเป็นกรณีของ BenQ W4100i ที่มาพร้อม ซูมดิจิทัล 1.3x
อีกวิธีหนึ่งคือใช้ แอป BenQ AR Projector Planner สำหรับ iPhone หรือ iPad หรือใช้ เครื่องมือคำนวณโปรเจคเตอร์ BenQ Projector Calculator ที่ใช้งานง่าย
การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณวัดและกำหนดขนาดการฉายและตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโปรเจคเตอร์ BenQ ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โปรเจคเตอร์ที่มีระยะฉายสั้น (short throw) จะให้ข้อได้เปรียบมากกว่า — แม้ในห้องขนาดเล็ก คุณก็สามารถฉายภาพขนาด 100 นิ้วได้อย่างง่ายดาย ด้วย BenQ TK705STi ที่สามารถให้ภาพขนาด 100 นิ้วได้จากระยะเพียง 1.8 เมตร
ⓑ คุณต้องการขนาดจอภาพเท่าไร?
โดยทั่วไป ขนาดการฉายภาพที่นิยมสำหรับโฮมโปรเจคเตอร์คือ 100 นิ้วขึ้นไป อย่างไรก็ตาม โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ ๆ สามารถฉายภาพได้ใหญ่ถึง 200 นิ้ว เช่น BenQ W5850
ขนาดจอที่คุณตั้งเป้าไว้จะขึ้นอยู่กับขนาดของห้องและตำแหน่งการวางโปรเจคเตอร์เป็นหลัก ปัจจุบันโปรเจคเตอร์ในตลาดแบ่งได้เป็น 3 ประเภทตามระยะการฉาย (Throw Distance) ซึ่งสำหรับขนาดจอภาพ 100 นิ้ว (แนวทแยงมุม) จะมีระยะห่างโดยประมาณเป็นเมตรตามแต่ละประเภทนั้น
ระยะฉายและการจัดวางเบื้องต้น
| Projector Type | Average Throw Ratio | Approximate Throw Distance |
Projector Type Ultra-Short Throw (UST) | Average Throw Ratio 0.23:1 to 0.4:1 | Approximate Throw Distance 0.5 to 0.9 meters |
Projector Type Short Throw | Average Throw Ratio 0.4:1 to 1.0:1 | Approximate Throw Distance 0.9 to 2.2 meters |
Projector Type Standard/Long Throw | Average Throw Ratio > 1.0:1, often 1.2:1 to 1.5:1 | Approximate Throw Distance 2.5 to 3.5 meters and up |
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการขนาดภาพฉาย 100 นิ้ว คุณสามารถเลือกใช้โปรเจคเตอร์แบบ Standard Throw และวางเครื่องฉายไว้ห่างจากจอประมาณ 2.5–3.5 เมตร ได้ หากพื้นที่ของห้องเอื้ออำนวย
บรรยากาศของแสงจะส่งผลต่อคุณภาพของภาพฉาย หากเลือกโปรเจคเตอร์ไม่เหมาะกับสภาพแสง เช่น จะใช้ในห้องมืด ห้องนั่งเล่นที่มีแสงมาก หรือกลางแจ้งในสวนหลังบ้าน สถานที่ที่คุณวางโปรเจคเตอร์จะสัมพันธ์โดยตรงกับระดับความสว่างที่ต้องใช้เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด
ความสว่างของโปรเจคเตอร์วัดในหน่วย ANSI Lumens โปรดละเว้นหน่วยอื่นที่อาจทำให้เข้าใจผิดได้ สำหรับห้องขนาดเล็กหรือการใช้งานภายใน โปรเจคเตอร์ที่มีความสว่าง 500–1,000 ลูเมน ก็เพียงพอสำหรับการรับชมอย่างเพลิดเพลิน
สำหรับห้องโฮมเธียเตอร์ที่มืด โปรเจคเตอร์ที่มีความสว่าง 2,000 ANSI Lumens ขึ้นไปจะให้ภาพที่มีรายละเอียดคมชัด โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยีสีที่แม่นยำ รุ่นที่มีความสว่างใกล้เคียงกันอย่าง BenQ GP520 และ TK705STi ก็ยังให้ภาพคมชัดได้แม้ในห้องที่มีแสงรอบข้าง เช่น ห้องนั่งเล่น
คุณภาพของภาพจากโปรเจคเตอร์ในตลาดขึ้นอยู่กับความละเอียดของการฉายภาพ ตั้งแต่ FHD (1280x1080 พิกเซล) ไปจนถึง 4K (3840x2160 พิกเซล) ซึ่งมีผลต่อความคมชัดและรายละเอียดของภาพในแต่ละเฟรม หากคุณชื่นชอบระบบโฮมเธียเตอร์ โปรเจคเตอร์ระดับ 4K คือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบ เพราะเป็นความละเอียดเดียวกับที่โรงภาพยนตร์ใช้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ควรแยกให้ออกระหว่าง True 4K และ Enhanced 4K แม้ทั้งสองจะรองรับการเล่นคอนเทนต์ 4K เหมือนกัน แต่ Enhanced 4K ส่วนใหญ่เป็นภาพระดับ 2K ที่ยิงสัญญาณซ้ำสองครั้ง เพื่อให้ดูเหมือนมี 8.3 ล้านพิกเซล ทั้งที่จริงแล้วมีเพียง 4.1 ล้านพิกเซลเท่านั้น
ในทางกลับกัน True 4K มีความละเอียดจริงที่ 8.3 ล้านพิกเซล โดยใช้ ชิปเซ็ต DLP 4K UHD ร่วมกับเทคโนโลยีประมวลผลภาพขั้นสูง เพื่อให้การสลับพิกเซลทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้ได้ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ซึ่งมากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ภาพที่ได้จึงคมชัดและเก็บทุกรายละเอียดอย่างแท้จริง
เมื่อโลกของความบันเทิงภายในบ้านพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีของโปรเจคเตอร์ก็เปลี่ยนแปลงตามเช่นกัน เดิมทีโปรเจคเตอร์ส่วนใหญ่ใช้หลอด Lamp เป็นแหล่งกำเนิดแสง แต่ปัจจุบันเริ่มถูกแทนที่ โดยเฉพาะหลังจากที่สหภาพยุโรปจะยกเลิกการใช้หลอด Lamp ภายในปี 2026
ในปัจจุบัน โปรเจคเตอร์ส่วนใหญ่ในตลาดหันมาใช้เทคโนโลยี LED หรือ Laser เพื่อยกระดับประสบการณ์ความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์หรือเล่นเกม ให้ภาพคมชัดและสมจริงมากขึ้น
เหตุผลที่เทคโนโลยีโปรเจคเตอร์ในอนาคตจะมุ่งสู่ LED และ Laser ได้แก่:
เปิด–ปิดได้ทันที ไม่ต้องรออุ่นเครื่อง
อายุการใช้งานยาวนานขึ้น โดยทั่วไปอยู่ที่ 20,000–40,000 ชั่วโมง
ให้สีสันสดใสและแม่นยำมากขึ้น
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทำงานเงียบกว่า เนื่องจากมีความร้อนสะสมน้อยกว่า
เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้โปรเจคเตอร์ยุคใหม่ตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพ ความสะดวก และความยั่งยืนได้อย่างสมบูรณ์
Feature |
LED | Laser Phosphor | RGB Laser | Lamp |
Feature Instant On/Off | LED Yes | Laser Phosphor Yes | RGB Laser Yes | Lamp Requires warm-up |
Feature Light Source Life | LED 6–10x longer | Laser Phosphor 6–10x longer | RGB Laser 6–10x longer | Lamp Standard lifespan 2,000 – 4,000 hours |
Feature Color Coverage | LED Very Good | Laser Phosphor Very Good | RGB Laser Excellent | Lamp Good |
Feature Mercury Content | LED Mercury-Free | Laser Phosphor Mercury-Free | RGB Laser Mercury-Free | Lamp Contains Mercury |
Feature Speckle Issues | LED None | Laser Phosphor None | RGB Laser Visible | Lamp None |
Feature Light Source Cost | LED Moderate | Laser Phosphor Moderate | RGB Laser High | Lamp Low |
Feature Power Consumption | LED Moderate | Laser Phosphor Low | RGB Laser Lowest | Lamp High |
Feature Maintenance Cost | LED Low | Laser Phosphor Low | RGB Laser Low | Lamp High |
ประสิทธิภาพของโปรเจคเตอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดแสงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากการทำงานร่วมกันของระบบออปติคอล การควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ การประมวลผลภาพ และเทคโนโลยีปรับแต่งสี ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและสวยสมจริงที่สุด
ไม่ต้องกังวล เพราะโปรเจคเตอร์ของ BenQ ทุกเครื่อง มาพร้อมกับเทคโนโลยีแหล่งกำเนิดแสงแบบ LED, 4LED หรือ Laser ที่ปราศจากสารปรอท เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและมอบความบันเทิงที่ยาวนานยิ่งขึ้น
หากคุณกำลังวางแผนจะซื้อโปรเจคเตอร์ สิ่งสำคัญคือการพิจารณาว่าคุณจะใช้มันเพื่อกิจกรรมประเภทใดมากที่สุด เช่น ใช้สำหรับดูหนังกับครอบครัว เล่นเกมกับเพื่อน หรือฉายกลางแจ้งกับลูก ๆ ไม่ว่าจุดประสงค์ใดก็ตาม โปรเจคเตอร์แต่ละรุ่นก็มีฟีเจอร์เฉพาะที่ช่วยเพิ่มความสนุกและความสะดวกในการใช้งานได้แตกต่างกัน
ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับ รูปแบบการใช้งานหลักของคุณ มากกว่าการพิจารณาค่าสเปกเพียงตัวเดียว เพราะการเลือกโปรเจคเตอร์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ที่สุด
สิ่งที่สำคัญที่สุด (What Matters Most)
สีและมาตรฐาน (Color & Standards):
เลือกโปรเจคเตอร์ที่ให้สีแม่นยำตามมาตรฐาน Rec.709 (HD) เพื่อให้ได้ภาพที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ของ BenQ มาพร้อมเทคโนโลยี CinematicColor™ ที่ช่วยให้ภาพมีสีสดและถูกต้องตามต้นฉบับ
ความละเอียด (Resolution):
ความละเอียดระดับ 1080p เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่หากต้องการภาพคมชัดบนจอขนาดใหญ่ 4K (3840×2160) คือคำตอบ เช่น BenQ W2720i โปรเจคเตอร์โฮมเธียเตอร์ระดับ 4K UHD ที่ให้ความละเอียด 8.3 ล้านพิกเซลต่อเฟรม ซึ่งมากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ให้ภาพละเอียดและคมชัดในทุกฉาก
คอนทราสต์และสภาพแวดล้อม (Contrast & Environment):
ค่า คอนทราสต์ (Contrast Ratio) มีหลายรูปแบบ เช่น FOFO และ ANSI โดยค่า ANSI เป็นมาตรฐานที่ใช้วัดได้แม่นยำกว่า ทั้งนี้ แสงในห้องและประเภทของจอภาพก็มีผลต่อความรู้สึกของคอนทราสต์ที่เห็นด้วยเช่นกัน
ความสว่าง (Brightness Targets):
สำหรับห้องมืดที่ยังมีแสงรอบข้างบางส่วน ควรเลือกโปรเจคเตอร์ที่มีความสว่าง มากกว่า 2,000 ลูเมน เช่น BenQ W2720i
แต่ถ้าเป็นห้องที่สว่างมาก ควรเลือกที่มีความสว่าง มากกว่า 3,000 ลูเมน เช่น BenQ W4100i เพื่อให้ภาพยังคงชัดเจน
การเชื่อมต่อและการติดตั้ง (Connectivity & Setup):
ตรวจสอบพอร์ตเชื่อมต่อ เช่น HDMI คู่ (เช่น HDMI 2.0b/ARC) รวมถึงฟังก์ชันอย่าง การปรับระยะฉาย (Throw Distance), Lens Shift หรือ Keystone Correction เพื่อความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
สรุปสเปกแนะนำ (Quick Spec Targets):
หากคุณใช้โปรเจคเตอร์หลักเพื่อดูภาพยนตร์ ควรมองหาโปรเจคเตอร์ที่มี
ความละเอียด 1080p หรือ 4K
สีตามมาตรฐาน Rec.709
ความสว่าง 2,000–3,000 ลูเมนขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับแสงในห้อง)
และควรมีฟังก์ชัน Lens Shift เพื่อการจัดวางที่ง่ายและยืดหยุ่น
ลบทั้งหมด
{{displaySortType}}
{{item.displaySortType}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{spec}}
{{item.price}}
{{item.price}}
{{item.promotePrice}}
Save {{item.savePrice}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
{{item.created}}
{{item.img}}
{{item.link}}
{{item.gamodelid}}
{{item.skucode}}
{{item.stock}}
{{item.price}}
{{item.category}}
{{title}}
We will notify you when we have more.
We will send you an email once the product become available.Your email will not be shared with anyone else.
Sorry, our store is currently down for maintenance.We should be back shortly. Thank you for your patience!
The requested qty is not available
The requested qty exceeds the maximum qty allowed in shopping cart
Product that you are trying to add is not available.
สิ่งที่สำคัญที่สุด (What Matters Most)
ลบทั้งหมด
{{displaySortType}}
{{item.displaySortType}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{spec}}
{{item.price}}
{{item.price}}
{{item.promotePrice}}
Save {{item.savePrice}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
{{item.created}}
{{item.img}}
{{item.link}}
{{item.gamodelid}}
{{item.skucode}}
{{item.stock}}
{{item.price}}
{{item.category}}
{{title}}
We will notify you when we have more.
We will send you an email once the product become available.Your email will not be shared with anyone else.
Sorry, our store is currently down for maintenance.We should be back shortly. Thank you for your patience!
The requested qty is not available
The requested qty exceeds the maximum qty allowed in shopping cart
Product that you are trying to add is not available.
สิ่งที่สำคัญที่สุด (What Matters Most)
ลบทั้งหมด
{{displaySortType}}
{{item.displaySortType}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{spec}}
{{item.price}}
{{item.price}}
{{item.promotePrice}}
Save {{item.savePrice}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
{{item.created}}
{{item.img}}
{{item.link}}
{{item.gamodelid}}
{{item.skucode}}
{{item.stock}}
{{item.price}}
{{item.category}}
{{title}}
We will notify you when we have more.
We will send you an email once the product become available.Your email will not be shared with anyone else.
Sorry, our store is currently down for maintenance.We should be back shortly. Thank you for your patience!
The requested qty is not available
The requested qty exceeds the maximum qty allowed in shopping cart
Product that you are trying to add is not available.
อุปกรณ์สมัยใหม่ในปัจจุบันต่างพึ่งพาการเชื่อมต่อแบบ USB-C ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น แม้พอร์ต USB-C จะมีลักษณะภายนอกคล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วมีหลายเวอร์ชัน เช่น USB 3.1, USB 3.2 และรุ่นล่าสุด USB 4
USB-C สามารถรองรับการใช้งานได้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการ ถ่ายโอนข้อมูล, จ่ายพลังงาน, ส่งสัญญาณภาพและเสียงผ่าน DisplayPort หรือแม้แต่ทำทั้งหมดได้พร้อมกันในเวลาเดียว — เรียกได้ว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ครบจบในพอร์ตเดียว
ลบทั้งหมด
{{displaySortType}}
{{item.displaySortType}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{item.productWordingData.productWordingTitle}}
{{spec}}
{{item.price}}
{{item.price}}
{{item.promotePrice}}
Save {{item.savePrice}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
Pre-order Now Pre-order will be available starting {{item.localReleaseDate}}
{{item.created}}
{{item.img}}
{{item.link}}
{{item.gamodelid}}
{{item.skucode}}
{{item.stock}}
{{item.price}}
{{item.category}}
{{title}}
We will notify you when we have more.
We will send you an email once the product become available.Your email will not be shared with anyone else.
Sorry, our store is currently down for maintenance.We should be back shortly. Thank you for your patience!
The requested qty is not available
The requested qty exceeds the maximum qty allowed in shopping cart
Product that you are trying to add is not available.
โปรเจคเตอร์ของ BenQ ใช้สถาปัตยกรรม DLP ขั้นสูง ที่ออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวนให้น้อยที่สุด โดยเลือกใช้ชิ้นส่วนที่ช่วยลดการหมุนวนของอากาศและลดเสียงมอเตอร์ความถี่สูง พร้อมระบบระบายความร้อนอัจฉริยะที่ปรับความเร็วพัดลมแบบไดนามิกตามอุณหภูมิภายในเครื่อง
เพื่อประสบการณ์การรับชมที่เงียบยิ่งขึ้น โหมด Eco จะช่วยลดเสียงพัดลมลงอีกระดับ โดยยังคงรองรับการเล่นภาพแบบ HDR ด้วยความสว่างที่ลดลงเพียงเล็กน้อย โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ระดับ 4K เช่น GP520 ทำงานเงียบเพียง 24–26 dBA, รุ่น W2720i อยู่ที่ 26–28 dBA, และรุ่นระดับสูงอย่าง W5850 ทำงานที่ระดับ 27–30 dBA เท่านั้น
ขอแสดงความยินดีที่คุณได้เลือกโปรเจคเตอร์คู่ใจเรียบร้อยแล้ว! หลังจากลงทุนกับโปรเจคเตอร์ที่ต้องการ คำถามต่อมาคือ จะทำอย่างไรให้ประสบการณ์การรับชมดียิ่งขึ้นด้วยจอที่เหมาะสม?
แม้การใช้ผนังสีขาวเรียบจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น แต่หากต้องการให้โปรเจคเตอร์แสดงสีสันได้เต็มประสิทธิภาพและมอบความสมจริงมากกว่าเดิม การเลือกใช้จอฉายโดยเฉพาะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเลือกจอที่เหมาะกับคุณ:
① ประเภทของจอ (เลือกตามพื้นที่และการติดตั้ง)
a. Fixed Frame (จอติดกรอบถาวร):
ให้พื้นผิวเรียบที่สุด ติดตั้งง่าย เหมาะกับห้องโฮมเธียเตอร์โดยเฉพาะ หากใช้ในห้องที่มีแสงสว่าง ควรเลือกผ้าจอแบบ ALR (Ambient Light Rejecting) เพื่อช่วยลดผลกระทบจากแสงรอบข้าง
b. Retractable (จอม้วนเก็บได้):
มีทั้งแบบ ดึงลงด้วยมือ (Manual Pull-down), มอเตอร์แบบไม่ตึง (Motorized Non-Tensioned) ที่สะดวกแต่มีโอกาสขอบม้วนงอได้ และแบบ มอเตอร์ตึงผ้า (Motorized Tab-Tensioned) ที่คงความเรียบได้ดีกว่า แม้ราคาสูงกว่าและต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน
c. Portable (จอพกพา):
เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องเคลื่อนย้าย เช่น จอแบบตั้งพื้น (Floor-Rising) หรือ จอแบบพับ/ขาตั้ง (Foldable/Tripod) เหมาะกับงานอีเวนต์หรือการให้เช่าใช้งานนอกสถานที่
② ขนาดและระยะการนั่งชม (เน้นความสบายเป็นหลัก)
a. เลือกขนาดจอให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่พื้นที่ผนังและระยะการรับชมจะรองรับได้ — ยิ่งจอใหญ่ ระยะนั่งก็ควรห่างมากขึ้นเพื่อความสบายตา
b. กฎโดยทั่วไป: สำหรับการดูภาพยนตร์ให้คำนวณระยะนั่ง ≈ ขนาดแนวทแยง × 1.3, ส่วนการดูทีวีทั่วไป ≈ ขนาดแนวทแยง × 1.8 ซึ่งเป็นแนวทางตามมาตรฐาน SMPTE (~30°) และ THX (~40°)
c. ตรวจสอบระยะฉายที่เหมาะสมได้ง่าย ๆ ด้วย BenQ Projection Distance Calculator หรือ แอป BenQ AR เพื่อช่วยกำหนดขนาดและระยะรับชมที่ลงตัวที่สุด
③ วัสดุของจอ (ให้เหมาะกับสภาพแสงและแผนระบบเสียง)
a. สี (Color):
สีขาวเป็นตัวเลือกมาตรฐานสำหรับการใช้งานในบ้าน ให้ภาพที่เป็นธรรมชาติและสมดุล
b. ค่ากำลังสะท้อนแสง (Gain):
จอแบบ No/Low-Gain ให้ความสว่างสม่ำเสมอและมุมมองกว้าง ส่วน High-Gain อาจทำให้เกิดจุดสว่างเกินจริง (Hot Spots) ที่ภาพดูไม่เป็นธรรมชาติ
c. จอแบบโปร่งเสียง (Acoustic Transparent / AT):
สามารถวางลำโพงไว้ด้านหลังจอได้ เหมาะกับห้องโฮมเธียเตอร์ที่มืด เนื่องจากมีค่าการสะท้อนแสงต่ำกว่า
d. สรุป:
เลือกวัสดุจอโดยพิจารณาจาก ขนาดพื้นที่, สภาพแสง, ความซับซ้อนในการติดตั้ง, งบประมาณ, และให้เหมาะกับ ระยะฉาย, ความสว่าง, อัตราส่วนภาพ (Aspect Ratio) และ ความละเอียดของโปรเจคเตอร์ เพื่อให้ได้ประสบการณ์รับชมที่ดีที่สุด
การเลือกโปรเจคเตอร์อาจเป็นเหมือนการเดินทางที่ต้องใช้เวลา แต่เมื่อได้เครื่องที่เหมาะกับคุณแล้ว ประสบการณ์ที่ได้รับจะไม่เหมือนกับสิ่งใดอีกต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกให้สอดคล้องกับ ขนาดและลักษณะของห้อง ส่วนปัจจัยอื่น ๆ สามารถปรับตามได้ในภายหลัง ขอให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์การรับชมที่เหนือระดับ